การพัฒนาซอฟต์แวร์แนวใหม่ ซอฟต์แวร์เชิงวัตถุ
ใน รอบ ห้า สิบ ปี ที่ มี คอมพิวเตอร์ ใช้
การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ได้ เปลี่ยน แปลง ตาม สภาพ การ พัฒนา
เริ่ม จาก การ คิด ค้น หา ภาษา คอมพิวเตอร์ เพื่อ ช่วย ใน การ สั่ง การ
การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ที่ ใช้ งาน จึง ขึ้น อยู่กับการ เขียน โปรแกรม โปรแกรม จึง เป็น ลำ ดับ การ ทำ งาน ของ คอมพิวเตอร์
ใน ยุค ต้น
ภาษา ที่ ใช้ สั่ง การ เป็น ภาษา เชิง ลำ ดับ
งาน ประยุกต์ จึง ใช้ ภาษา เชิง ลำ ดับ สั่ง งาน
เช่น วาน พัฒนา ซอฟต์แวร์ด้วย ภาษาฟอร์แทรน เบสิก โค บอล
ต่อ มา เมื่อ พบ ว่า งาน ที่ สั่ง ให้ คอมพิวเตอร์ ทำ มี ความ ซับ ซ้อน มาก ขึ้น
การ สั่ง งาน ทำ ให้ วิธี การ เขียน โปรแกรม ขึ้น อยู่กับตัว บุคคล
เพราะ ลำ ดับ ความ คิด ที่ ถ่าย ออก มา เป็น รูป โปรแกรม นั้น ยาก ที่ จะ ทำ ความ เข้า ใจ ได้
โปรแกรม ที่ พัฒนา จึง ขึ้นกับตัว บุคคล
ไม่ สามารถ ให้ อีก บุคคล หนึ่ง ดำ เนิน การ ตรวจ สอบ หรือ ทำ ความ เข้า ใจ เกี่ยวกับโปรแกรม ได้ ง่า ย
ความ คิด นี้ จึง ต้อง ทำ ซอฟต์แวร์ให้ เป็น โครง สร้าง
มี การ นิยาม ภาษา คอมพิวเตอร์ แบบ กระบวน ความ
(procedure) เน้น การ พัฒนา ซอฟต์แวร์แบบ โครง สร้าง
จึง มี การ ใช้ โปรแกรม แบบ โครง สร้าง
การ พัฒนา ภาษา คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องมือ ที่ ใช้ ใน การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ จึง เน้น แบบ โครงสร้า ง
ใช้ ภาษา ปาสคาล ซี หรือ ภาษา ต่าง ๆ
ที่ พัฒนา มา ใน รูป แบบ กระบวน ความ
เพื่อ ให้ มี การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ แบบ ท้อปดาวน์ มาก ขึ้น
อย่าง ไร ก็ ตาม
การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ แบบ กระบวน ความ ที่ เป็น โครง สร้าง ก็ ยัง เป็น แนว ทางของ การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ แบบ นาม ธรรม
ใช้ จินตนาการ
ดัง นั้น การ สร้าง จินตนาการ ใน งาน ที่ ซับ ซ้อน ยัง เป็น เรื่อง ยาก
ซอฟต์แวร์ตาม แนว จินตนาการ ของ บุคคล หนึ่ง จึง ยาก ที่ จะ นำ มา ใช้กับอีก บุคคล หนึ่ง
ซอฟต์แวร์ที่ พัฒนา แล้ว ยัง ยาก ที่ จะ นำ มา ใช้ งาน ใหม่
ทั่ว โลก จึง มี ซอฟต์แวร์ที่ เขียน กัน ขึ้น มา มาก มาย
ยาก ที่ จะ นำ กลับ มา ใช้ ใหม่ ได้
แนว คิด แบบ ปรับ กระบวน ทัศน์
ความ คิด ใน เรื่อง การ ปรับ กระบวน ทัศน์ (paradigm)
มี มา หลาย ครั้ง แล้ว ใน ช่วง ปี ค.ศ . 1980-1990
ประเทศ ญี่ปุ่น
โดย กระทรวง การ ค้า และ อุตสาหกรรม ได้ ร่วมกับบริษัท ชั้น นำ ของ ญี่ปุ่น ใน เรื่อง การ ผลิต คอม พิวเตอร์และ มหาวิทยาลัย เพื่อ ทำ การ ศึกษา คอมพิวเตอร์ ใน ยุค ที่ ห้า
โดย เน้น รูป แบบ ของ คอมพิวเตอร์ แนว ใหม่
ทั้ง ทางด้าน ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์
เพื่อ ให้ ได้ คอมพิวเตอร์ ยุด ใหม่ ที่ นำ มา ใช้ ใน งาน ปัญญา ประดิษฐ์ต่าง
ๆ อย่าง ไร ก็ ดี
โครง การ คอมพิวเตอร์ รุ่น ที่ ห้า ของ ญี่ปุ่น ประสบ ความ สำเร็จ ระดับ หนึ่ง
แต่ ก็ ยัง ยาก ที่ จะ พัฒนา ต่อ เนื่อง
ทั้ง นี้ เพราะ พัฒนา การ ทางด้าน ไมโคร โปรเซสเซอร์ ของ อเมริกัน
โดย เฉพาะอินเทลและ บริษัท คู่ แข่ง ของอินเทล
สามารถ สร้าง ชิปได้ ใน ราคา ถูก
และ มี ผู้ นำ มา ประยุกต์ ใช้ ได้ มาก มาย
มี พัฒนา การ ที่ เร็ว
ดัง นั้น ความ คิด ที่ จะ สร้าง คอมพิวเตอร์ แนว ใหม่ ของ ญี่ปุ่น จึง ไม่ มี ใคร ขาน รับ
ทำ ให้ ผล งาน วิจัย เหล่า นั้น พบกับอุปสรรค ใน เรื่อง การ ดำ เนิน ต่อ ใน ขั้น อุตสาหกรรม และ การ นำ ไป ใช้
ความ คิด ของ ประเทศ ญี่ปุ่น
ก็ ทำ ให้ เกิด การ ตื่น ตัว ใน การ พัฒนา คอมพิวเตอร์ ทั้ง ใน สหรัฐ อเมริกา และ ยุโรป
ความ คิด เหล่า นี้ ได้ รับ การ ปรับ ปรุง และ ยัง มี แนว ทางของ การ แข่ง ขัน กัน
โดย เฉพาะ การ พัฒนา งาน ทางด้าน ปัญญา ประดิษฐ์ ต่าง
ๆ
การ ปรับ กระบวน ทัศน์ ใน เรื่อง ความ คิด ของ การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ ที่ เด่น ชัด ครั้ง หนึ่ง
คือ การ เขียน โปรแกรม แบบ ภาษา พรรณา
หรือ ที่ เรียก ว่า declarative language ภาษาโปรล็อก
หรือ ภาษา ลิสน์
แนว คิด เชิง วัตถุ
แนว คิด เชิง วัตถุ เป็น แนว คิด ที่ มี มา อย่าง ต่อ เนื่อง
ตั้ง แต่ การ ใช้ งาน ทางด้าน ปัญญา ประดิษฐ์ การ เขียน โปรแกรม เชิง พรรณาที่ ใช้ หลัก การ ของ การ บรรยาย เชิง วัตถุ
รูป แบบ ของ ภาษา ที่ ใช้ จึง เน้น รูป ธรรม ที่ ต้อง การ การ บรรยาย
ความ คิด เชิง วัตถุ
เป็น ความ คิด ที่ ใช้ ใน การ สร้างโมเดล ของ สิ่ง ที่ มี ความ ซับ ซ้อน
โดย มี จำนวน
เหตุ การณ์ ที่ เกิด ขึ้น จำนวน มาก ที่ เกี่ยวกับ เชต ของ วัตถุ
ความ สัมพันธ์ ของ เหตุ การณ์ ที่ เกิด ขึ้น เกี่ยว พัน และ เชื่อม โยง กับ วัตถุ
การ ใช้ วิธี การ เชิง วัตถุ จึง เป็น วิธี การ ทาง เทคนิค ที่ ทำ ให้ เกิด รูป ธรรม
ลอง ดู รูป ธรรม เชิง วัตถุ ที่ ใช้ ใน การ อธิบาย สิ่ง บาง อย่าง ที่ เป็น ความ รู้
และ ขอบ เขต ของ ความ รู้ ที่ กว้าง ขวาง
ดัง นั้น ถ้า เรา จะ หา ทางแทน ความ รู้
สิ่ง ที่ เป็นโมเดล ที่ ดี และ ใช้ งาน ได้ อย่าง หนึ่ง คือ
รูป แบ บ ออบเจ็กต์
หรือ เชิง วัตถุ ดัง ตัว อย่าง รูป ที่ 1

ความ สัมพันธ์ เชิง วัตถุ เป็น สิ่ง ที่ เข้า ใจ ง่าย
และ สามารถ สร้าง ตาม ความ เข้า ใจ
เห็น ภาพ ชัด เจน
ดัง นั้น การ สร้างโมเดล เชิง วัตถุ จึง เป็น สิ่ง ที่ ใช้ ประ โยชน์ ใน ทางธุรกิจ ทุก องค์ กร มี ฟัง ก์ชัน การ ทำ งาน ที่ สามารถ เขียน เป็นโมเดล เชิง วัตถุ ได้
โดย ประกอบ ด้วย เหตุ การณ์ (event)
และ ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ นั้น
(occurrence)
ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ อาจ เป็น ได้ ทั้ง ที่ เป็น วัตถุ หรือ ไม่ ใช่ วัตถุ ก็ ได้
เช่น บริษัท อาจ ผลิต สิน ค้า หรือ บริการ
ซึ่ง ทั้ง สิน ค้า หรือ บริการ นี้ เป็น ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์
โดย ทำ ให้ มี ราคา หรือ มี การ ขาย ที่ ทำ ให้ ลูก ค้า พอ ใจ
ดัง นั้น ทั้ง สิน ค้า และ บริการ อาจ ดู แล้ว มี ความ แตก ต่าง กัน
สิน ค้า สามารถ จับ ต้อง ได้
แต่ การ บริการ อาจ จับ ต้อง โดย ตรง ไม่ ได้
แต่ มี ราคา ได้
ไม่ เพียง แต่ ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ เท่า นั้น ที่ จะ เป็น ออบเจ็กต์
(วัตถุ)
ตัว ที่ แสดง ความ สัมพันธ์ ระหว่าง วัตถุ ก็ เป็น สิ่ง ที่ ต้อง นำ มา คิด
ทั้ง นี้ เพราะ ใน สภาพ ของ สิ่ง ที่ เป็น จริง คือ ทุก สิ่ง ที่ อยู่ ใน ธรรม ชาติ มี โครง สร้าง เป็น แบ บสเตติก
ซึ่ง มี ความ สัมพันธ์ ระหว่าง กัน และ เชื่อม โยง เป็นโมเดล เชิง วัตถุ
และ ใช้ ใน การ สร้างโมเดล
ทั้ง นี้ เพราะ ใน โลก แห่งความ เป็น จริง
การ แทนโมเดล ไม่ สามารถ ที่ จะ สื่อ ความ หมาย ทุก สิ่ง ทุก อย่าง ได้ หมด
แต่ ขอบ เขต ของ การ สร้างโมเดล เพื่อ อธิบาย ความ หมาย ใน เชิง สร้าง ซอฟต์แวร์มี บาง สิ่ง บาง อย่า งที่ อาจ แตก ต่าง ออก ไป บ้าง โดย เน้น ให้ สิ่ง ต่าง
ๆ
ที่ เป็น วัตถุ และ ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ ได้
เป็น ออบเจ็กต์ใน ความ หมาย ของ สิ่ง ที่ จะ ใช้ ทางซอฟต์แวร์
โดย ให้ ออบเจ็กต์นั้น มี ข้อ มูล ข่าว สาร อยู่ ภาย ใน
และ ยัง ให้ คุณ ลักษณะ ขอ งอ อบเจ็กต์ไป ยัง ออบเจ็กต์อื่น
ๆ ได้ ออบเจ็กต์จะ อยู่ ใน กลุ่ม ที่ เรียก ว่า คลาส
และ ให้ คุณสมบัติ สำหรับ คลาสสามารถ ถ่าย ทอด กัน ได้
ออบเจ็กต์คืออะไร
ลอง นึก ดู ว่า ภาย ใน องค์ กร หรือ บริษัท มี กิจ กรรม ต่าง
ๆ เกิด ขึ้น มาก มาย
การ ดำ เนิน การ ของ บริษัท ประกอบ ด้วย กิจ กรรม ต่าง
ๆ มี กิจ กรรมการ ขาย การ ผลิต การ ซื้อ
การ ดำ เนิน การ ของ คน
กิจ กรรม ที่ เกี่ยว ข้อง กับ เงิน บัญชี
ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ ขึ้น เรียกว่า
ออบเจ็กต์ ซึ่ง มี มาก มาย ใน องค์ กร
และ คำ ว่า ออบเจ็กต์ จึง ได้ รับ การ ใช้ ใน สถานะ ต่าง
ๆ กัน
และ อาจ มี ความ หมาย ที่ คลาด เคลื่อน กัน บ้าง
อย่าง ไร ก็ ดี
เรา กำหนด ความ หมาย ของ คำ ว่า "ออบเจ็กต์ "
ไว้ ว่า
เป็น ตัว ที่ ทำ ให้ เกิด เหตุ การณ์ ที่ มี ข่าว สาร และ ให้ คุณ ลักษณะ บาง อย่าง
พิจารณา จาก ตัว อย่าง
- บัญชี ธนาคาร เป็น ออบเจ็กต์ใน ธนาคาร
สำนัก งาน ก็ เป็น ออบเจ็กต์ใน ธนาคาร
และ เช่น เดียว กัน ลูก ค้า ก็ เป็น ออบเจ็กต์
- นโยบาย การ ประกัน ภัย
ก็ เป็น ออบเจ็กต์ที่ อยู่ ใน บริษัท ประกัน ภัย
และ เช่น เดียว กัน ธนาคาร ตัว สำนัก งาน
และ ลูก ค้า ก็ มี อยู่ ด้วย และ เป็น ออบเจ็กต์ด้วย
- รถ ยนต์
ก็ เป็น ออบเจ็กต์ที่ อยู่ ใน หน่วย ทะเบียน รถ ยนต์ กลาง
รถ ยนต์ ก็ ยัง เป็น ออบเจ็กต์ของ ระบบ การ ผลิต ใน โรง งาน รถ ยนต์
จาก ตัว อย่าง ที่ ยก มา ให้ ดู นี้ เห็น ได้ ชัด ว่า
ใน การ ประยุกต์ ใช้ งาน หรือ ใน สิ่ง แวด ล้อม หนึ่ง อาจ มี หลาย
ๆ ออบเจ็กต์
และ ใน อีก สถาน การณ์ หนึ่ง ก็ มี ออบเจ็กต์ที่ มี ลักษณะ คล้าย กัน
ลูก ค้า ของ ธนาคารกับลูก ค้า ของ บริษัท ประกัน ภัย ก็ คือ ออบเจ็กต์
แต่ ออบเจ็กต์ลูก ค้า ใน บริษัท ประกัน ภัย หรือ ไม่
ทำนอง เดียว กัน จะ เห็น ว่า รถ ยนต์ เป็น ออบเจ็กต์ของ หน่วย ขึ้น ทะเบียน กลาง
หรือ กรม การ ขน ส่ง ทา งบก
และ ก็ เป็น ออบเจ็กต์ของ บริษัท ผลิต รถ ยนต์ ด้วย
ออบเจ็กต์ของ รถ ยนต์ ใน สอง สถาน การณ์ นี้ เหมือน กัน หรือ ไม่
คำ ตอบ ที่ เด่น ชัด คือ ไม่ เหมือน กัน
ใน โดเมน ของ สิ่ง แวด ล้อม ต่าง กัน
การ มอง ที่ ออบเจ็กต์จะ ต่าง กัน
ลูก ค้า ทั้ง ของ ธนาคาร และ บริษัท ประกัน ภัย อาจ มี ชื่อ
นามสกุล ที่ อยู่ ที่ ติด ต่อ เหมือนกัน
แต่ อาจ จะ มี บาง ส่วน ที่ ความ ต้อง การ ของ ธนาคาร แตก ต่าง จาก บริษัท ประกัน ภัย
ลอง พิจารณา ที่ รถ ยนต์ จะ เห็น เด่น ชัด
คือ รถ ยนต์ ที่ เป็น ออบเจ็กต์อยู่ ใน ส่วน ของ โรง งาน ผลิต รถ ยนต์
บริษัท ผู้ ผลิต สน ใจ ว่า รถ ยนต์ นั้น จะ ขา วน ให้ ผู้ ใด
ใคร คือ ผู้ ซื้อ วัน ที่ ผลิต สี รถ
สิ่ง ที่ ลูก ค้า สั่ง ให้ เพิ่ม เติม
เฉพาะ ใน รถ ยนต์ ตาม ความ ต้อง การ ของ ลูก ค้า
ส่วน หน่วย ทะเบียน ของ กรม การ ขน ส่ง ทาง บกมอง ออบเจ็กต์ รถ ยนต์ ว่า
ใคร เป็น เจ้า ของ วัน ที่ ซื้อ ขาย
เสีย ภาษี รถ ยนต์ แล้ว หรือ ยัง
ตลอด จน ข้อ มูล ที่ เกี่ยวกับการ จด ทะเบียน รถ ยนต์

สิ่ง ที่ ประกอบ อยู่ ขึ้น มากับ ออบเจ็กต์
และ เป็น ข่าว สาร ที่ จะ บอก ว่า ออบเจ็กต์นั้น มี คุณสมบัติ อย่าง ไร
เรา เรียก ว่า แอตทริบิวต์
โดย ส่วน ของ แอตทริบิวต์ จะ มี ค่า หรือ ตัว ข้อ มูล อยู่
สมมติ ว่า สมบัติ แจ้ง กิจ เป็น ลูก ค้า ธนาคาร
การ พิจารณา เช่น นี้ เห็น ว่า ตัว ออบเจ็กต์เป็น ตัว แทน ลูก ค้า ทุก คน
รวม ทั้ง สมบัติ ด้วย
โดย คุณ ลักษณะ ที่ อยู่ ใน ออบเจ็กต์ลูก ค้า คือ
ชื่อ ลูก ค้า ที่ อยู่ ซึ่ง เป็น แอตทริ บิวต์
การ ทำ งาน ใน ระบบ มี ลักษณะ เรียก ใช้ งาน ระ หว่า ง ออบเจ็กต์
ออบเจ็กต์หนึ่ง จะ เรียก ใช้ อี กอ อบเจ็กต์หนึ่ง ได้ อย่าง ไร
การ สร้างโมเดล การ เรียก ใช้ ระหว่าง กัน จึง อยู่ ที่ ออบเจ็กต์หนึ่ง ส่ง ข้อ ความ
(message)ไป ยัง อี กอ อบเจ็กต์หนึ่ง
ซึ่ง จุด นี้ เป็น สิ่ง ที่ แตก ต่าง จาก วิธี คิดเดิมที่ เรา สร้าง โป กร แก รม เป็น กระบวน ความ โดยส ่งพา รา มิเตอร์ ไป และ กลับ ระหว่าง กระบวน ความ
จาก การ สร้างโมเดล ขอ ง ออบเจ็กต์แนว ใหม่ นี้ ใช้ "ข้อ ความ "
ส่ง ระหว่าง กัน
ความ จริง แล้ว การ ใช้ คำ ว่า "ข้อ ความ "
อาจ ทำ ให้ สับ สน ได้
เพราะ ที่ แท้ จริง คือ ออบเจ็กต์หนึ่ง
เมื่อ ออบเจ็กต์ที่ ได้ รับ สัญญาณ ตัว กระตุ้น นี้ ก็ จะ ดู ว่า สัญญาณ ตัว กระตุ้น นี้ คือ อะไร และ จะ กระ ทำ ตาม ดัง นั้น แต่ ละ ออบเจ็กต์จึง มี ตัว กระตุ้น เข้า มา
การ ทำ งาน ขอ ง ออบเจ็กต์ อาจ เกี่ยว ข้องกับการ ทำ งาน ที่ จำ เป็น ต้อง เปลี่ยน ค่า ใน แอตทริ บิวต ์ต่าง
ๆ ปรับ ปรุง ค่า หรือ กระ ทำ ตาม เงื่อน ไข
หรือ อาจ ต้อง การ ส่ง ตัว กระตุ้น นี้ ไป ยัง ออบเจ็กต์อื่น อีก ต่อ ไป
สิ่ง เด่น ชัด ที่ น่า สน ใจ คือ แอตทริบิวต์
ของ ออบเจ็กต์ จะ ประกอบ ยู่ ภาย ใน ออบเจ็กต์ของ มัน เอง เท่า นั้น
ดัง นั้น ด้วย วิธี การ นี้ จึง เป็น คุณสมบัติ ที่ สำคัญ ขอ ง ออบเจ็กต์ ที่ นำ ข้อ มูล หรือ ค่า ใน แอตทริบิวต์ เก็บ ไว้ ใน ตัว มัน เอง
คุณสมบัติ ใน ลักษณะ นี้ เรา เรียก ว่า encapsulation
การ ที่จะ เข้า ถึง ข่าวสาร ภายใน จะ ต้อง กระทำ ภาย ใน ออบเจ็กต์ เอง
ข้อ มูล ที่ เป็น ค่า อยู่ ใน ออบเจ็กต์จะ ได้ รับ การ เก็บ ไว้ ใน สิ่ง แวด ล้อม ภาย ใน ของ ออบเจ็กต์ นั้น
ไม่ เพียง แต่ แอตทริบิวต์ ของ ออบเจ็กต์ จะ ได้ รับ การ ซ่อน ไว้ ภาย ใน สิ่ง แวด ล้อม ของ ออบเจ็กต์เท่า นั้น
ราย ละเอียด โครง สร้าง การ ทำ งาน เสมือน เป็น โปรแกรม ที่ สั่ง งาน ใน แบบ เก่า ก็ ยัง ซ่อน อยู่ ภาย ใน ออบเจ็กต์ด้วย
แต่ สิ่ง ที่ มี ให้ เห็น ต่อ สิ่ง แวด ล้อม คือ
ชนิด ของ การ ทำ งาน ที่ จะ ได้ รับ การ กระตุ้น ให้ ทำ งาน
ชื่อ ของ ชนิด ของ ข้อ มูล ข่าว สาร ที่ ประกอบ การ ทำ งาน นี้ เรียก ว่า
"Signature"
การ ติด ต่อกับ ออบเจ็กต์ จึง มี การ รับ รู้ แบบ การ สื่อ สาร ระหว่าง กัน ที่ เรียก ว่า
โปรโตคอล
ออบเจ็กต์ที่ ต้อง การ ติด ต่อ โดย การ ส่ง สัญญาณ ตัว กระตุ้น ออก ไป เรียก ว่า
ออบเจ็กต์ ไคลเอ็นต์
ออบเจ็กต์ที่ รับ สัญญาณ กระตุ้น มา เรียก ว่า
ออบเจ็กต์ เซิร์ฟเวอร์
เมื่อ พิจารณา ที่ ออบเจ็กต์จึง เห็น ได้ ว่า
ส่วน ขอ ง ออบเจ็กต์ ที่ มี รูป แบบ ที่ พอ จะ แสดง ให้ เข้า ใจ ได้
โดย แบ่ง เป็น 2 ส่วน
คือ ส่วน หนึ่ง ที่ จะ ใช้ ใน การ รับ การ ติด ต่อ ระ หว่า ง ออบเจ็กต์ เพื่อ ให้ ทำ งาน โดย เฉพาะ ที่ ติด ต่อ ตาม โปรโต คอล
ส่วน นี้ จะป็นส่วน ข้อ กำหนด ของ ออบเจ็กต์
กับอีก ส่วน หนึ่ง คือ
ส่วน ที่ มี แอตทริบิวต์ และ การ ทำ งาน ภาย ใน ที่ มี ส่วน เกี่ยว ข้องกับค่า ที่ เก็บ ใน แอตทริบิวต์
พิจารณา ตัว อย่าง ออบเจ็กต์หนึ่ง สมมติ เป็น บัญชี เงิน เดือน ของ พนักงาน
ซึ่ง มี โครง สร้าง แอตทริบิวต์ ภาย ใน ที่ บอก ราย ละเอียด ว่า
บัญชี เงิน เดือน อะไร บ้าง
ซึ่ง โครง สร้าง แอตทริบิวต์ จะ ให้ ราย ละเอียด ต่างๆ
เหล่า นี้
แต่ ส่วน ที่ อยู่ ใน สิ่ง แวด ล้อม ที่ จะ ได้ รับ การ เรียก จาก ภาย นอก หรือ กระตุ้น เป็น สิ่ง เร้า
และ รับ การ ติด ต่อ ด้าน โปรโต คอลก็ เป็น อีก ตัว หนึ่ง แต่ ทั้ง สอง ส่วน นี้ อยู่ ภาย ใน ออบเจ็กต์
หาก จินตนา การ ออบเจ็กต์ ให้ เป็น สิ่ง ที่ มี รูป ธรรม
อาจ เขียน ได้ เป็นโมเดล เช่น บัญชี เงิน เดือน
มี แอตทริ บิวต์ที่ กำหนด ว่า มี ข้อ มูล อะไร ประกอบ อยู่
และ เมื่อ มี การ คำนวณ หรือ กระ ทำ ใด ๆ
จะ กระ ทำ ใน ออบเจ็กต์โดย ที่ เมื่อ มี ตัว กระตุ้น จะ กระ ทำ ใน ออบเจ็กต์โดย ที่ เมื่อ มี ตัว กระ ตุ ้นจะ กระ ทำ และ รับ ส่ง ข้อง มูล ระหว่าง กัน ดัง นั้น จึง พอ สรุป ความ ขอ ง ออบเจ็กต์ ได้ เป็น
- ออบเจ็กต์ต้อง มี แอตทริ บิวต์
และ การ ดำ เนิน งาน ภาย ใน ออบเจ็กต์
- สิ่ง แวด ล้อม ที่ อยู่ รอบ ๆ
ออบเจ็กต์สามารถ ส่ง สัญญาณ มา ให้ ออบเจ็กต์ทำ งาน
แต่ ไม่ สามารถ ก้าว เข้า มา สู่ ภาย ใน ออบเจ็กต์
หรือ เรียก ดู ข้อ มูล ใน แอตทริ บิวต์ที่ มี อยู่ ใน ออบเจ็กต์
-
ออบเจ็กต์ทุ ก ออบเจ็กต์ จะ บรรจุ แอตทริ บิวต์และ การ ดำ เนิน งาน ภาย ใน เรา เรียก ว่า
encapsulate
-
การ ติด ต่อ กัน ใน ใช้ ข้อ ความ ส่ง กระตุ้น เรา เรียก ว่า
โปรโต คอ ล
- การ ดำ เนิน การ ภาย ใน ออบเจ็กต์ใด ๆ
จะ ไม่ มี ผล ต่อ สิ่ง แวด ล้อม ภาย นอก

ออบเจ็กต์มี การ เชื่อม โยง ระหว่าง กัน
กิจ การ ธนาคาร มี ลูก ค้า
ลูก ค้า ก็ เป็น ออบเจ็กต์หนึ่ง ที่มึความ ชัด เจน คือ
มี แอตทริ บิวต์ภาย ใน ลูก ค้า มี ลักษณะ เฉพาะ
มี ชื่อ ที่ อยู่ ที่ ติด ต่อ
การ ดำ เนิน การ ใน ออบเจ็กต์ลูก ค้า อาจ เกี่ยว ข้องกับการ สอบ ถาม
การ ปรับ ปรุง ข้อ มูล
การ ทำ ราย งาน ที่ เกี่ยวกับข้อ มูล ลูก ค้า
ที่ ธนาคาร เอง มี ออบเจ็กต์บัญชี
ซึ่ง มี แอตทริ บิวต์และ การก ระ ทำ ภาย ใน

การ เชื่อม โยง ระ หว่า ง ออบเจ็กต์ มี ลักษณะ ความ เกี่ยว โยง หรือ มี ความ เชื่อม โยง ถึง กัน
เป็น ความ เชื่อม โยง สัมพันธ์ ระหว่าง กัน
ลอง ดู จาก ตัว อย่าง การ ให้ สิน เชื่อกับลูก ค้า ของ ธนาคาร แห่งหนึ่ง
กรรม วิธี การ ให้ สิน เชื่อ เริ่ม จาก เมื่อ ลูก ค้า ซึ่ง เป็น บุคคล ได้ เข้า มา ติด ต่อ และ ยื่น แบบ ฟอร์มของ สิน เชื่อ จาก พนักงาน ธนาคาร
พนักงาน ผู้ ดู แล รับ แบบฟอร์ม
และ นำ ไป ตรวจ สอบกับฐาน ข้อ มูล ของ ธนาคาร เพื่อ ดู ว่า
ผู้ ที่ ต้อง การ กู้ นี้ เป็น ลูก ค้า ของ ธนาคาร อยู่ หรือ ไม่
หาก ผู้ ขอ กู้ นี้ ไม่ เคย เป็น ลูก ค้า ของ ธนาคาร พนักงาน ก็ จะ ดำ เนิน การก รอก ข้อ มูล ประวัติ ของ ผู้ กู้ นี้ เข้า ไป ใน ฐาน ข้อ มูล ของ ธนาคาร

พนักงาน ธนาคาร ได้ ดำ เนิน การ ตรวจ สอบ ต่อ ไป อีก หลาย ขั้น ตอน
โดย เฉพาะ เกี่ยวกับข้อ มูล ของ ตัว ผู้ ขอ กู้ พนักงาน ธนาคาร ตรวจ สอบ ดู ว่า ผู้ ขอ กู้ มี เครดิต คุ ้มค่ากับการ ขอ กู้ หรือ ไม่
มี หลัก ทรัพย์ พอ เพียง หรือ ไม่
เป็น ผู้ ล้ม ละ ลาย ไม่ มี ความ สามารถ ใน การ ใช้ คืน
เมื่อ ตรวจ สอบ ข้อ มูล ต่าง ๆ
และ เห็น ว่า ผู้ ขอ กู้ ไม่ มี ปัญหา
พนักงาน ก็ จะ ดำ เนิน การ ตรวจ สอบ คำนวณ ดู ว่า ผู้ ขอ กู้ จะ มี ความ สามารถ ใน การ ใช้ คืน ดอก เบี้ย แล ะเงิน ต้น ได้ หรือ ไม่
โดย ตรวจ ดู จาก ข้อ มูล ที่ ยื่น มา ให้ ดู
ซึ่ง ได้ แก่ ข้อ มูล เงิน เดือน
การ ออม รวม ทั้ง สินทรัยพ์และ หนี้ สิน ของ ผู้ ขอ กู้
พนักงาน ธนาคาร จะ คำนวณ ดู ว่า สภาพ ของ ฐานะ การ เงิน ของ ผู้ ขอ กู้ จะ ผ่าน ขั้น ต่ำ ที่ ทางธ นา คา รก ำหนดไว้ หรือ ไม่
เมื่อ ทุก สิ่ง ทุก อย่าง อยู่ ใน เงื่อน ไข ที่ ธนาคาร กำหนด พนักงาน ธนาคาร ก็ จะ ติด ต่อ ไป ยัง ผู้ ขอ กู้
และ จัด เตรียม การ ประชุม ร่วม กัน
ใน การ ประชุม ผู้ ขอ กู้ จะ ได้ รับ การ แจ้ง บอก เงื่อน ไข ที่ ธนาคาร จะ ให้
เช่น เงิน กู้ อัตรา ดอก เบี้ย
การ ผ่อน ชำระ การ นำ หลัก ทรัพย์ ค้ำ ประกัน
เมื่อ เงื่อน ไข และ กระบวน ต่าง ๆ
เป็น ที่ ยอม รับ แล้ว
พนักงาน ธนาคาร ก็ จัด เตรียม สัญญา ที่ จะ ให้ ลูก ค้าเซ็นและ รับ เงิน
ขณะ เดียว กัน เมื่อ ทุก อย่าง ดำ เนิน การ ไป
พนักงาน ธนาคาร ก็ จะ ทำ การ ปรับ ปรุง ฐาน ข้อ มูล ลูก ค้า บัญชี การ กู้ เงิน
ด้วย การ ใส่ ตัว เลข ปริมาณ เงิน กู้
อัตรา ดอก เบี้ย การ ผ่อน ชำระ คืน
และ การ ค้ำ ประกัน
พนักงาน ธนาคาร จะ ให้ คู่ สัญญากับลูก ค้า และ เก็บ ตัว จริง ไว้กับธนาคาร
จาก ขบวน การ และ การ วิเคราะห์ ขั้น ตอน ของ ธุรกิจ จะไดัรูป แบบ ที่ เรียก ว่า
การ ไหล เวียน ทางธุรกิจ (business workflow)
ซึ่ง สิ่ง ที่ เป็น การ ไหล เวียน ของ งาน นี้ สามารถ พิจารณา และ มอง ขั้น ตอน ให้ เป็น การ เขียน แบบ เชิง วัตถุ ได้ จาก ขั้น ตอน ที่ กล่าว แล้ว เขียน ใน รูปโมเดล ของ ขบวน การ กู้ เงิน ที่ เป็น เชิง วัต ถุได้ เป็น
จาก ตัว อย่าง นี้ ยัง อาจ ไม่ สมบูรณ์
เพราะ ยัง ไม่ มี การ อธิบาย ว่า กระบวน การ ของ แต่ ละ ออบเจ็กต์ และ การ เชื่อม โยง เกิด ขึ้น ได้ อย่างไร
จาก ตัว อย่าง นี้ ลูก ค้า เป็น ผู้ ยื่น แบบฟอร์มขอ กู้ เงิน
ข้อ มูล ลูก ค้า เป็น ออบเจ็กต์ที่ เป็น ข้อ มูล เก็บ อยู่ ใน ธนาคาร
เมื่อ ผู้ ดู แล การ กู้ เงิน ซึ่ง เป็น พนักงาน ธนาคาร ได้ รับ แบบฟอร์มการ ขอ กู้ เงิน
ผู้ ดู แล การ กู้ เงิน ก็ จะ นำ เอา ข้อ มูล จาก แบบฟอร์มเข้า ตรวจ สอบกับฐาน ข้อ มูล ลูก ค้า
ซึ่ง มี อยู่ แล้ว ใน ธนาคาร
ถ้า ข้อ มูล นี้ ยัง ไม่ มี อยู่
ก็ จะ บัน ทึก ใน ฐาน ข้อ มูล
ผู้ ดู แล การ กู้ เงิน ยัง คง ทำ งาน อีก หลาย ขั้น ตอน ใน การ ตรวจ สอบ ความ ต้อง การ ของ ลูก ค้า
ผู้ ดู แล การ กู้ เงิน ตรวจ สอบ เครดิต ของ ลูก ค้า จาก ข้อ มูล เงื่อน ไข ที่ เก็บ ที่ ธนาคาร
เมื่อ ตรวจ สอบ แล้ว เห็น ว่า เงื่อน ไข ของ การ ขอ กู้ เงิน ไม่ มี ปัญหา ใด
ก็ จะ ตรวจ ดู สภาพ การ จ่าย ดอก เบี้ย และ เงิน ต้น ที่ เป็น ไป ได้
โดย ดู จาก ข้อ มูล ใน ขอ กู้
ซึ่ง อาจ ประกอบ ด้วย ข้อ มูล เงิน เดือน การ ออม
รวม ถึง ค่า ใช้ จ่าย ราย เดือน ของ ผู้ กู้
ผู้ ดู แล การ กู้ จะ คำนวณ และ หา เงื่อน ไข ที่ เหมาะ สม ที่ จะ ให้ เงิน กู้ และ การ จ่าย คืน
ซึ่ง ข้อ มูล บาง อย่าง จะ นำ มา จาก กฎ เกณฑ์ การ ให้ สิน เชื่อ ของ ธนาคาร
หาก ทุก อย่าง เรียบ ร้อย ผู้ ดู แล การ กู้ ก็ จะ ติด ต่อกับลูก ค้า
เพื่อ นัด แนะ ดัง ได้ กล่าว มา แล้ว
ออบเจ็กต์นำ มา รวม กัน ได้
ออบเจ็กต์ที่ แสดง ออก อาจ ประกอบ ด้วย ออบเจ็กต์เพียง ออบเจ็กต์เดียว
หรือ ออบเจ็กต์ที่ รวม กัน หลา ย ออบเจ็กต์
ลอง พิจารณา ออบเจ็กต์สิน ค้า คง คลัง ที่ แสดง ใน รูป ที่
6 ซึ่ง ประกอบ ด้วย ออบเจ็กต์ย่อย ๆ ประกอบ รวม กัน

ลักษณะ ของ การ รวม ขอ ง ออบเจ็กต์ จึง ประกอบ ด้วย ออบเจ็กต์ย่อย
ๆ รวม กัน เช่น ออบเจ็กต์คอมพิวเตอร์ ก็ จะ ประกอบ ด้วย
จอ ภาพ คีย์ บอร์ด ซี พียู
ออบเจ็กต์สิน ค้า คง คลัง ประกอบ ด้วย สิน ค้า ต่าง
ๆ หลาย อย่าง รวม กัน
คลาสขอ ง ออบเจ็กต์
ออบเจ็กต์ทุก ๆ ออบเจ็กต์จะ ต้อง อยู่ ใน คลาส
หรือ กล่าว ได้ ว่า ออบเจ็กต์หลาย ๆ
ออบเจ็กต์อาจ มี ลักษณะ เหมือน กัน เช่น
ธนาคาร มี ลูก ค้า หลาย ๆ คน
ลูก ค้า แต่ ละ คน ก็ เป็น ออบเจ็กต์
ดัง นั้น ออบเจ็กต์ของ ลูก ค้า แต่ ละ คน มี ลักษณะ ชนิด เดียว กัน
เพื่อ ที่ จะ อธิบาย ออบเจ็กต์ได้ ถูก ต้อง
เรา จึง มี การ กำหนด เป็น คลาส
ซึ่ง จะ เห็น ได้ ว่า ถ้า ออบเจ็กต์มี ลักษณะ สมบัติ เหมือน กัน คือ
มี แอตทริ บิวต์และ พฤติกรรม ต่าง ๆ เหมือน กัน
และ เรา จะ กำหนด เป็น คลาส เช่น สม ศักดิ์ สม ชาย
สม หญิง
เป็น ลูก ค้า ธนาคาร ทั้ง สาม คน นี้ จึง เป็น ออบเจ็กต์ที่ มี ลักษณะ เหมือน กัน
เรา จึง หา วิธี การ กำหนด ให้ อยู่ ใน กลุ่ม เดียว กัน
เรา เรียก ว่า คลาส หรือ ใน กรณี นี้ เรียก ว่า คลาส
"ลูก ค้า "
นั่น คือ ออบเจ็กต์ทุก ๆ ออบเจ็กต์ต้อง มี คลาส
คลาสเป็น ตัว อย่า ง ออบเจ็กต์ นั้น จะ ใช้ สำหรับ อะไร
ซึ่ง ก็ เกี่ยว ข้องกับแอตทริ บิวต์
และ การก ระ ทำ ใน ออบเจ็กต์
ดัง นั้น แต่ ละ ออบเจ็กต์จึง ต้อง มี ข้อ มูล ที่ เกี่ยวกับชื่อ ธนาคาร และ ใน แต่ ละ แอตทริ บิวต์ ของ แต่ ละ ออบเจ็กต์จะ มี ค่า ที่ เก็บ ไว้ แตก ต่าง กัน
ซึ่ง ค่า ที่ อยู่ ใน แอตทริ บิวต์นั้น จะ นำ มา ใช้ ใน การ ดำ เนิน การ ภาย ใน ออบเจ็กต์
และ การ ทำ งาน ใน แต่ ละ ออบเจ็กต์ที่ อยู่ ใน ออบเจ็กต์ก็ จะ มี ลักษณะ การ ทำ งาน เหมือน กัน ถ้าอย ู่ใน คลาสเดียว กัน
การ ถ่าย ทอด ลักษณะ จาก คลาสหนึ่ง ไป ยัง คลาสอื่น
ๆ
การ ถ่าย ทอด คุณ ลักษณะ หรือ ที่ เรียก ว่า
inherit
โดย ปกติ คลาสหนึ่ง อาจ มี ความ สัมพันธ์กับอีก คลาสใน ลักษณะ ที่ ถ่าย ทอด คุณ ลักษณะ ถึง กัน ได้
การ ถ่าย ทอด คุณ ลักษณะ จึง หมาย ถึง การ รับ ใน เรื่อง ของ แอตทริ บิวต์
และ การ ทำ งาน ของ อีก คลาสหนึ่ง มา
ซึ่ง จะ ต้อง ได้ รับ การ อธิบาย ใน ทั้ง ตัว ถ่าย ทอด และ ตัว รับ การ ถ่าย ทอด
ลักษณะ การ ถ่าย ทอด ลักษณะ ของ คลาส เช่น
การ ตรวจ สอบ ฐานะ เครดิต แบบ อัตโนมัติ
ซึ่ง สามารถ ถ่าย ทอด ไป ยัง ออบเจ็กต์
การ ตรวจ สอบ เครดิต ซึ่ง แสดง ดัง ใน รูป ที่
7

ทำนอง เดียว กัน คลาสหนึ่ง อาจ ถ่าย ทอด ไป ยัง คลาสอื่น
ๆ ได้ อีก หลาย ๆ คลาส เช่น
ลูก ค้า ธนาคาร อาจ เป็น ลูก ค้า ที่ เป็น บุคคล ภาย นอก
หรือ ลูก ค้า ที่ เป็น พนักงาน ของ บริษัท เอง
การ สร้าง ออบเจ็กต์จึง สร้าง ออบเจ็กต์รวม เป็น
EmployedCustomer
ซึ่ง ถ่าย ทอด คุณสมบัติ ไป ยัง ออบเจ็กต์ Customer และ
Employee แยก จาก กัน
โอ โอ เป็น รูป แบบ สำหรับ อนาคต
จาก การ พิจารณา ให้ ลึก ซึ้ง ใน เรื่อง ของ การ ไหล ของ งาน ทำ ให้ การ ใช้ รูป แบ บ ออบเจ็กต์ แสดง สภาพ การ ทำ งาน ได้ ดี กว่า
และ การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ แนว ใหม่ จึง หัน มา ใช้ ซอฟต์แวร์ ที่ สนับสนุน การ พัฒนา การ ประยุกต์ แบบ ออบเจ็กต์ และ เป็น หน ทางที่ น่า สน ใจ ยิ่ง ใน อนาคต อัน ใกล้ นี้
เพราะ จะ เป็น ระบบ การ พัฒนา ซอฟต์แวร์ แนว ใหม่ ที่ สามารถ สร้าง ขึ้น มา ตาม แนว คิด ของ ธุรกิจ
และ ทำ ให้ การ พัฒนา ทำ ได้ ง่ายขึ้น
และ ยัง ใช้ งาน ตลอด จน การ ปรับ ปรุง ปรับ เปลี่ยน ใน ภาย หลัง ได้ ง่าย
ใน บท ความ นี้ ได้ เน้น เฉพาะ แนว คิด พื้น ฐาน เกี่ยวกับ ออบเจ็กต์เท่า นั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น