โทรศัพท์คอมพิวเตอร์
พัฒนาของการไมโครโปรเซสเซอร์เป็นต้นเหตุของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง
ๆ
ตามมาอีกมากมาย ปี พ.ศ. 2539
นี้เป็นปีที่อายุการพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ครบรอบ
25 ปีแล้ว
การพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ครบรอบ 25
ปีแล้ว
การพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ทำให้มีการสร้าง
พีซีและเป็นต้นเหตุของการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย
และเมื่ออินเทลพัฒนาซีพี
ยตระกูล 86
ที่เป็นรายฐานของพีซีในตระกูลของอินเทลเป็นเส้นทางที่ยาวนาน
และยังยาวไกลที่
จะทำให้มีสิ่งต่าง
ๆ อีกมากมาย
ขณะที่พีซีแพร่หลายและมีขีดความสามารถสูงขึ้น
พัฒนาการทางด้านสื่อสารก็เริ่มขึ้น
พัฒนาการทางด้านสื่อสารก็เริ่มขึ้น
มีการพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร
จนทำให้คอมพิวเตอร์จำนวนมากเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายเดียวกัน
รับส่งข้อมูลถึงกัน
การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่เครื่องพีซีทุกวันนี้จะไม่โดดเดี่ยวแบบสแตนอโลนพีซี
แต่จะใช้งานร่วมกัน
มัลติมีเดียเป็นเทคโนโลยีที่สนองตอบความต้องการของผู้ใช้พีซีในปัจจุบันจึงต้องมีระบบเสียง
ระบบภาพ
และยังมีระบบเก็บข้อมูลจำนวนมาก
ทั้งที่เป็นฮาร์ดดิสค์และซีดีตลอดจนการเชื่อมต่อแบบ
LAN
และโมเด็มมัลติมีเดียพีซีจึงเป็นพีซีเป็นพื้นฐานที่ผู้ซื้อพีซีปัจจุบันเลือกหา
และเป็นมาตรฐานของพีซีต่อไป
เมื่อพีซีได้พัฒนามาถึงจุดนี้
ระบบสื่อสารพัฒนาตามมา
ระบบโทรศัพท์ก็พัฒนามาเป็นระบบโทรศัพท์ดิจิตอล
การเชื่อมโยงและรวมเทคโนโลยีของการใช้งานคอมพิวเตอร์พีซี
มัลติมีเดีย ระบบสื่อสาร
โทรศัพท์จึงเป็นเป้าหมายที่รวมกันเข้าเป็นระบบเดียวและมีแนวโน้มที่เป็นจริง
โทรศัพท์คอมพิวเตอร์
เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญ
CTI
เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง
CTI เป็นคำย่อมาจาก Computer Telephony Integration
คือ
การ
รวม
เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์
กับ
โทรศัพท์
เข้า
ด้วย
กัน
ลอง
จินตนาการ
ดู
ว่า
เครือข่าย
อินเทอร์เน็ต
มี
เครื่อง
คอมพิวเตอร์
ต่อ
อยู่
หลาย
ล้านเครื่อง
เครือข่าย
โทรศัพท์
มี
พื้น
ที่
ใหญ่
กว่า
อินเทอร์เน็ต
มาก
มาย
นัก
ปัจจุบัน
มี
โทรศัพท์
ต่อ
เชื่อม
เข้า
บ้าน
ประมาณ
มาก
กว่า
500 ล้านเครื่อง
เครือ
ข่าย
โทรศัพท์
จึง
เป็น
เครือ
ข่าย
ที่
ใหญ่
ที่
สุด
ใน
โลก
เป็น
เครือ
ข่าย
ที่
มี
ผู้
ใช้
กัน
มา
กมาย
และ
มี
ความ
จำ
เป็น
อย่าง
มาก
ต่อ
ระบบ
สื่อ
สาร
แนวคิดของ CTI ก็คือ
ต้องการทำให้เครื่องรับปลายทางที่ทุกบ้านใช้กลายเป็นพีซีและพีซีทุกเครื่องก็จะกลายเป็นโทรศัพท์
โดยพีซีจะกลายเป็น call center
หรือสถานีโทรศัพท์
มีรหัสหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียกว่า call id
การติดต่อสื่อสารระหว่างกันจึงใช้รหัสเช่นเดียวกับที่เราใช้
การใช้พีซีมีข้อดีเพราะพีซีมีซีพียูที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาพีซีจึงต้องเพิ่มเติมฟังก์ชันการทำงานที่เรียกว่า
หน่วยตอบสนองเสียง หรือ VRU Voice Response Unit
การใช้งานพีซีเป็นโทรศัพท์ย่อมง่ายกว่าการใช้โทรศัพท์
เพราะพีซีมีระบบอัจฉริยะภายในตัวที่ทำให้การทำงานแบบอัตโนมัติ
การรับส่งข้อความเสียงการประมวลผลเสียง
และในอนาคตก็คงรวมการรับส่งภาพ
กลายเป็นวีดีโอโฟน
และวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่พูดโต้ตอบเห็นหน้าตากันด้วยสิ่งต่าง
ๆ
เหล่านี้มีแนวโน้มที่เป็นไปได้และอีกไม่นานนักคงได้พบเห็น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเป็นไปในลักษณะที่เชื่อมโยงกัน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคงเห็นได้ชัดเราใช้โมเด็มความเร็ว
28,800
บิตต่อวินาทีเรียกหาข้อมูลมีเครือข่าย
WWW-World Wide Web
การโอนย้ายข้อมูลแบบมัลติมีเดียทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงข้อมูลได้ทั้งภาพเสียงและ
วีดีโอ
สิ่งเหล่านี้เองเป็นเครื่องยืนยันว่าการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
โมเดลของ CTI
เพื่อใช้เป็นที่อ้างอิง
และเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาได้พัฒนาตามรูปแบบโมเดลอ้างอิง
เพื่อเป็นมาตรฐานกลาง มาตรฐานของ CTI
จึงเป็นมาตรฐานที่บริษัทชั้นนำต่างๆ
กำลังพัฒนาเพื่อว่าระบบเครือข่าย CTI
จะเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันได้ทั่วโลก
โมเดลอ้างอิงที่ใช้แสดงดังรูปที่ 1

โมเดลอ้างอิงนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนโดยที่ปลายทางด้านหนึ่งมีพีซีเป็นเทอร์มินัลหรือทำหน้าที่เป็นสถานีปลายทางสำหรับรับส่งเสียง
(Voice terminal)
อีกปลายด้านหนึ่งเป็นเครือข่าย หรือสวิตชิง
โดยมีส่วนเชื่อมโยงทำหน้าที่เชื่อมโยงพีซีกับเครือข่ายเข้าด้วยกัน
พีซีทำงานในฟังก์ชันที่เป็นเทอร์มินัลของเสียงประกอบด้วยอินพุตเสียงและเอาต์พุตเสียงอินพุตจึงรับสัญญาณเสียงจากไมโครโฟนและเอาต์พุตเป็นลำโพงที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายผ่านส่วนเชื่อมต่อที่เรียกว่า
ส่วนการ connection
ส่วนนี้มีการเชื่อมโยงได้หลายแบบ เช่น
ถ้าเป็นพีซีธรรมดาและเชื่อมเข้าเครือข่ายโทรศัพท์ทั่วไป
ก็เชื่อมต่อผ่านโมเด็ม
และถ้าพีซีต่ออยู่กับ LAN
ส่วนเชื่อมต่อก็เป็น LAN
และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ PABX หรือ PBX
คือชุมสายโทรศัพท์ย่อยขององค์กร
โมเดลอ้างอิงนี้จึงเขียนใหม่ได้ดังรูปที่
2

อินเทอร์เน็ตก็ต้องรวมกับระบบโทรศัพท์
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเติบโตเร็วมากมีแนวโน้มของการเชื่อมโยงพีซีทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ขณะเดียวกันผู้ประยุกต์งานทางด้านมัลติมีเดียก็มีมากเช่นกัน
หากใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้น
การประยุกต์ทางด้านเสียง ภาพ และวีดีโอ
คงไปไกลกว่านี้แล้วบนอินเทอร์เน็ตมีการประยุกต์เป็นโทรศัพท์เช่น
iphone หรืออินเทอร์เน็ตโฟน มี CUCMEE
คือโปรแกรมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์
การประยุกต์ในเรื่องสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตมีโมเดลเช่นเดียวกับ
CTI เช่นกัน

การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสารข้อมูลแบ่งเป็นระดับย่อยตามโมเดล
OSI ได้ 7 ระดับ
ระดับบนเป็นเรื่องของการประยุกต์ที่สามารถประยุกต์งานต่าง
ๆ บนเครือข่ายได้มาก
การประยุกต์งานทางด้านการสื่อสารทางเสียงจึงเป็นอีกงานหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก
หากมองลึกลงไปพบว่า
เสียงพูดในระบบโทรศัพท์เป็นสัญญาณดิจิตอลได้เช่นกัน
ระบบสัญญาณดิจิตอลทางเสียงตามหลักการโทรศัพท์ก็ใช้ข้อมูลความเร็วขนาด
64 กิโลบิตต่อวินาที
แต่เมื่อการประมวลผลดีขึ้นมีการบีบอัดสัญญาณเสียงด้วยเทคนิคที่ดีขึ้นจนสามารถบีบอัดสัญญาณเสียงให้เล็กลงมาเหลือเพียงประมาณ
16
กิโลบิตต่อวินาทีได้การประยุกต์ด้วยสัญญาณเสียงทางโทรศัพท์บนเครือข่ายจึงเป็นหนทางที่แจ่มชัดขึ้นเรื่อย
ๆ
พัฒนาการซอฟต์แวร์บนวินโดวส์
เตรียมรองรับแล้ว
ผู้ผลิตโอเอสหลักทุกรายต่างพัฒนาช่องสำหรับขยายส่วนการเชื่อมโยงนี้ไว้แล้วไมโครซอฟต์ผู้พัฒนาวินโดวส์และไอบีเอ็มผู้พัฒนาโอเอสทู
ต่างมีฟังก์ชันการทำงานเตรียมพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ไว้แล้ว
ฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญ คือ call processing
ซึ่งเป็นฟังก์ชันการเรียกเข้าเครือข่ายเพื่อการเชื่อมโยง
การควบคุมการติดต่อการและเชื่อมโยงการส่งสัญญาณระหว่างกัน
กับอีกส่วนหนึ่งคือ media processing
เป็นเรื่องของการให้ข้อมูลวิ่งผ่านไปยังเครือข่ายผ่านตัวกลางต่าง
ๆ
เพื่อให้การทำงานระบบคอมพิวเตอร์มีสิ่งที่เหนือกว่าโทรศัพท์ทั่วไป
พีซีมีโปรแกรมต่าง ๆ ที่เก็บไว้ได้
จึงสามารถสร้างฟังก์ชันพิเศษสำหรับการทำงานได้อีกมากมาย
เช่น การโอนหมายเลข
การประมวลผลร่วมกับฐานข้อมมูล การรับเมล์เสียง
การพูดคุยมากกว่าหนึ่งคน การประชุมกลุ่ม
ฯล ฯ
ฟังก์ชันเหล่านี้เป็นฟังก์ชันทางซอฟต์แวร์ที่ต้องพัฒนาและการวางให้เป็นมาตรฐานสากล
เพื่อว่าระบบการเชื่อมโยงทั้งหมดเป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างสมบูรณ์
ผู้พัฒนาบนวินโดวส์จึงสร้างส่วนเชื่อมต่อที่เรียกว่า
API Application Program Interface เพื่อรองรับ
ส่วนเชื่อมต่อนี้มีชื่อว่า TAPI-Telephone API
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์นี้ได้พัฒนาไปไกลแล้ว
โดยอยู่ระหว่างการทดลองและหาแนวทางในการเชื่อมต่อรับระบบมาตรฐานต่าง
ๆ
ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่จะเชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์ก็กำลังดำเนินการเพื่อให้ระบบเครือข่ายโทรศัพท์
PABX และ PBX เชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้
โครงสร้างของ TAPI แสดงดังรูปที่ 4


โมเดลที่อ้างถึงเป็นการมองแบบกว้างซึ่งการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์เช่น
TCP/IP ก็เป็นรูปแบบหนึ่ง
นั่นหมายถึงผู้ใช้บนเครือข่ายนี้เช่นกำลังใช้เน็ตสเคป
ก็อาจมีเสียงริงกิงบอกว่ามีผู้ต้องการโทรศัพท์ติดต่อด้วย
ผู้ใช้อาจใช้เม้าส์คลิ๊กเพื่อรับสายบนจอวินโดวส์ของเน็ตสเคป
เพื่อพูดตอบโต้ทางโทรศัพท์
กรณีตัวอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อโปรแกรมเน็ตสเคปเป็นโปรแกรมประยุกต์ได้พัฒนาฟังก์ชันนี้ไว้
และเชื่อมต่อกับ TAPI
เพื่อเข้าสู่ระบบสากลบนเครือข่าย TCP/IP
คอมพิวเตอร์โทรศัพท์จะเข้ามาแทนเครื่องโทรศัพท์ที่บ้าน?
การใช้พีซีดังที่กล่าวมาแล้วเน้นที่พีซีต่ออยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์
และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ต่อเชื่อมกับเครือข่ายโทรศัพท์วิธีการนี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น
ผู้พัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์คงต้องเดินหน้าต่อไป
โดยเฉพาะการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ที่บ้านให้เป็นคอมพิวเตอร์
รูปแบบของการใช้คอมพิวเตอร์เป็นโทรศัพท์
แสดงดังรูปที่ 5

ด้วยขนาดของมาตรฐานของ V.34
ที่เพิ่มเติมขีดความสามารถการรับสัญญาณบางส่วนก็พอเพียงที่จะทำให้โทรศัพท์ที่ใช้พีซีแทนได้
การรับส่งสัญญาณรับส่งได้ทั้งสัญญาณเสียงและข้อมูล
โมเดลของโมเด็มที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่าย
แสดงดังรูปที่ 6

การเชื่อมโยงโทรศัพท์ดังรูปที่ 6
ต้องการการ์ดอินเตอร์เฟส
การ์ดอินเตอร์เฟสนี้ต้องรองรับซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาและเชื่อมกับชุมสาย
มีระบบสัญญาณเรียกขานตามมาตรฐานกลางที่รับรู้กันได้
มาตรฐานของสัญญาณเรียกขานนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานระบบนี้จะได้รับการประยุกต์ใช้การที่ใช้พีซีช่วยเพราะพีซีมีฟังก์ชันการทำงานได้อีกมาก
และสามารถเพิ่มขีดความสามารถการติดต่อบนเครือข่ายได้ดี
จะมีผู้พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ให้ใช้ได้มาก
ในที่สุดเครือข่ายโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ก็รวมกัน
เป้าหมายของการพัฒนาอยู่ที่ต้องทำเครือข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายโทรศัพท์เชื่อมโยงกันให้ได้
การเชื่อมโยงกันนี้ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงในระดับฟิสิคัลเท่านั้น
แต่ต้องให้ทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกันความหมายของการเชื่อมโยงนี้คือ
ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์ที่หนึ่ง
สามารถหมุนเลขหมายไปยังพีซีที่ต่ออยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์เช่นอินเทอร์เน็ต
และโต้ตอบกันได้
เช่นเดียวกันผู้ใช้พีซีก็สามารถเรียกหาเข้าสู่โทรศัพท์หรือพูดคุยกันได้เช่นเดียวกัน
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งสองเข้ากับโทรศัพท์เป็นดังรูปที่
7
การเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งสองเข้าด้วยกันนี้ทำให้ระบบสื่อสารที่จะเกิดขึ้นเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด
การสื่อสารระหว่างกันคงก้าวหน้าขึ้นไป
การเชื่อมโยงระหว่างกันในระดับเสียงเป็นเพียงขั้นต้น
เพราะเป้าหมายสุดท้ายคือการเชื่อมโยงแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์หรือเมื่อพูดก็มองเห็นหน้ากันไปด้วย
เป้าหมายนี้ไม่ไกลเกินไปแล้ว